เยี่ยมชมโรงงานและขั้นตอนการผลิต หลังคาไม้ซีดาร์ ประเทศแคนนาดา

เมื่อเดือนกันยายน 2549 ทางไอดีรูฟ และทีมงานได้ไปดูขั้นตอนการผลิตหลังคาไม้ซีดาร์ที่โรงงานผลิตมาครับ  ดังนั้นเลยได้โอกาสอธิบายขั้นตอนการผลิตแบบคร่าวๆให้ลูกค้าของเราได้ฟังครับ เพราะว่าลูกค้าถามกันเยอะครับ นำเศษไม้ที่ใช้แล้วมาทำหรือป่าว? หรือว่าทนทานจริงไหม? คืออย่างนี้ครับ ประเทศแคนนาดาส่วนใหญ่ ทำไม้เป็นอุตสาหกรรมหลัก แต่ไม้ของเขาตัดแล้วจะปลูกทดแทนครับ และไม้ซีดาร์ที่นำมาผลิตหลังคาไม่ได้ใช่เศษไม้หรือปีกไม้มาผลิต แต่ใช้ไม้ที่เป็นลำต้นเลยครับ เป็นพันธ์ไม้ซีดาร์แดง (Cedar Red) ซึ่งจะมีความแข็งแรงและทนทานสูง แต่ละต้นมีอาย ุ300 - 400 ปีขึ้นไปครับ ดูได้จากขนาดลำต้นและวงปีครับ 

ขั้นตอนก็เหมือนบ้านเราแหละครับ ตัดไม้มาแล้วขนส่งลงมาทางแม่น้ำ แต่ที่ขนส่งมาทางแม่น้ำนั้น มีข้อดีที่ว่าประหยัดค่าใช้จ่าย และอีกอย่างไม้ก็แช่น้ำมาทำให้ไม้ไม่เกิดการแตกตัวของเนื้อไม้ครับ ตามรูปครับ

พอนำไม้ลำเรียงมาตามน้ำแล้วเมื่อถึงโรงงานก็นำขึ้นมาตัดครับโดยการตัดนั้นจะตัดตามแนวขวางของลำต้อนครับ

ต่อจากนั้นก็แบ่งไม้ออกเป็นชิ้นๆตามแนวยาวของต้นไม้ครับตามรูปการแบ่งจะเป็นการแบ่งที่มีขนาดใหญ่ก่อนครับ 

แบ่งไม้เป็น ชิ้นใหญ่แล้วส่งมาตามสานพานลำเลียง เพื่อทำให้ไม้เป็นชิ้นเล็กๆ และเป็นแผ่นบางๆต่อไปโดยมีความหนา
อยู่ที่ประมาณ 1- 2.5 ซม.แล้วแต่รุ่นของไม้ครับ

แต่ไม้ที่แบ่งแล้วจะมีความหนาเท่ากันทั้งแผ่นกับส่วนความยาวมีขนาด 18” กับ 24” ครับ
และความหนากับความยาว จะเป็นการคัดไม้แต่ละรุ่นครับ ส่วนรุ่นของไม้ดูได้จากในเว็ปของเราหน้าสินค้า (Product) / ซีดา(Cedar)ครับ

ขั้นตอนต่อไปขั้นตอนนี้ผมชอบมากเลยครับ ไม้ที่ถูกแบ่งจากขั้นตอนที่แล้วยังใช้เลยไม่ได้ครับ เพราะว่าไม้จะมีความหนาเท่ากันทั้งแผ่น แต่ขั้นตอนนี้จะเป็นการแบ่งไม่ให้ไม้ด้านหัวไม้หนาและปลายไม้บางครับ จะเห็นได้จากเครื่องมือครับ มีใบเลื่อยเอียงๆอยู่หนึ่งอัน พอนำไม้ใส่เข้าไป แล้วก็ตัดออกมาเป็น 2 ชิ้นครับ จะได้ด้านหัวไม้หนา และปลายไม้บางพอดี และที่ต้องทำให้ด้านหนึ่งหนา และด้านหนึ่งบาง ก็เพราะว่าเวลานำไปปูหลังคาเมื่อเกิดการซ้อนทับกันแล้ว ไม้จะซ้อนทับกันได้สนิทครับ ทำให้เกิดการรั่วซึมยากและทนแรงลมสูงอีกด้วยครับ

เราเคยเจอคำถามที่ว่า 1 มัดปูได้1.8 ตรม. ใช้วิธีหรือว่าใช้หน่วยวัดอย่างไรบ้าง ถ้าดูจากในรูปแล้วไม่ยากเลยครับ
จะมีกระบะอยู่แค่นำไม้ที่เสร็จแล้วใส่กระบะแล้วเรียงให้ได้ชั้นตามที่กำหนดไว้ มันเหมือนกับการปูในแนวยาวนั่นแหละครับ
ก็จะได้ตาราเมตรแล้วครับ ทำให้เกิดความแม่นยำสูงใน 1 มัดครับ